ห้ามพลาดเที่ยวชมงาน 7 สิ่งมหัศจรรย์โลกใต้น้ำ Wonders of the Aquatic World พร้อมสัมผัสกับชีวิตสัตว์น้ำที่หาชมยากกว่า80 สายพันธุ์ ในงาน “วันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 33”

พบกับ 7 สิ่งมหัศจรรย์โลกใต้น้ำ “Wondersof the Aquatic World”
โดดเด่นเฉพาะตัวที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ในงาน “วันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 33”

กรมประมง ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ตลอดจนภาครัฐและเอกชน จัดงาน “วันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 33” ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 9 กรกฎาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. เนรมิตพื้นที่กว่า 7,000 ตร.ม. ทั่วบริเวณชั้น G ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ เป็นโลกใต้น้ำที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ที่น่าค้นหาและตี่นตระการตา ภายใต้ธีม “Wonders of the Aquatic World” ที่คุณจะได้สัมผัสกับชีวิตพิศวงจากสัตว์น้ำกว่า 80 สายพันธุ์ อลังการกับการประกวดปลาสวยงามที่ได้มาตรฐานที่สุดในประเทศไทยมากถึง 7 ชนิด 75 ประเภท กว่า 1,000 ตู้ และยังมีกิจกรรมความรู้ ความสนุกอีกมากมาย ตลอดจนนิทรรศการความรู้ทางการแพทย์ “Healthy Thai คนไทยสุขภาพดี” โรคทางอายุรศาสตร์จากคุณหมอโรงพยาบาลศิริราช พร้อมกิจกรรมการออกหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่

นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า “งานวันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 33 เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างกรมประมง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ตลอดจนหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้ทูลเกล้าถวาย สมทบทุนมูลนิธิจุฬาภรณ์ และเป็นการส่งเสริม อนุรักษ์ เผยแพร่ความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับพันธุ์สัตว์น้ำและปลาสวยงาม และพรรณไม้น้ำชนิดต่าง ๆ ให้กับประชาชน เกษตรกร และเป็นการยกระดับการจัดงานก้าวสู่สากล

สำหรับกรมประมง มีการจัดแสดงนิทรรศการมีชีวิตในธีม Wonders of the Aquatic World มหัศจรรย์โลกใต้น้ำ โดยนำเสนอนิทรรศการความรู้และจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาเพื่อการดำรงชีวิต ภายใต้ความสวยงามที่ซ่อนอยู่ในโลกใต้น้ำ โดยผู้เข้าชมงานจะได้ร่วมสัมผัสกับความตระการตาในรูปแบบ 9 ไฮไลท์ และ 7 สิ่งมหัศจรรย์โลกใต้น้ำ ดังนี้

 

ไฮไลท์ที่ 1. นิทรรศการประมง : จัดแสดงความมหัศจรรย์พันธุ์สัตว์น้ำกว่า 80 สายพันธุ์ ภายใต้คอนเซป 7 สิ่งมหัศจรรย์โลกใต้น้ำ ประกอบด้วย
1. มหัศจรรย์กำเนิดชีวิต เช่น ฉลามกบ เป็นฉลามที่ออกลูกเป็นไข่ โดยจัดแสดงสเตจไข่ ซึ่งจะได้เห็นความมหัศจรรย์ของเปลือกไข่ หรือที่เรียกว่า กระเป๋านางเงือก ปลาหมอมาลาวี เลี้ยงลูกด้วยการอมลูกปลาไว้ในปากจนกว่าลูกจะแข็งแรง ปลาตะพัด ตัวเมียออกไข่ ตัวผู้จะอมไข่ไว้ในปากฟูมฟักจนกว่าลูกจะแข็งแรง (ประมาณ 1 เดือน) โดยระหว่างที่อมไข่จะไม่สามารถกินอาหารได้ จระเข้ มี “ฟันเจาะไข่” ช่วยเจาะเปลือกออกจากไข่หลังจากนั้นอวัยวะนี้ก็จะหายไป ฯลฯ
2. มหัศจรรย์ที่อยู่อาศัย เช่น ปลาหมอหอย กับพฤติกรรมสุดแปลกใช้เปลือกหอยเป็นบ้านไว้ผสมพันธุ์วางไข่เลี้ยงลูก ปูเสฉวนบกขาม่วง อาศัยอยู่ในเปลือกหอยและอยู่บนบกตลอดเวลา ฯลฯ

3. มหัศจรรย์สีสัน เช่น ปลาแมนดาริน สีสันเหมือนลายผ้าไหมหรือแพรชั้นดี จนดูคล้ายชุดขุนนางจีนโบราณ จึงถูกขนานนามว่า “มังกรน้อยแห่งพื้นทะเล” ปลากัดรวมสี รวมพลังสัตว์น้ำประจำชาติ ด้วยการโชว์สีสันสวยงามของปลากัดที่เกษตรกรไทยพัฒนาสายพันธุ์ ในแบบ “สวยสั่งสีได้” แมงกะพรุนพระจันทร์ เยลลี่แห่งท้องทะเล ฯลฯ
4. มหัศจรรย์ในตัวตน สัตว์น้ำที่มีนิสัยเฉพาะตัว เช่น งูชายธงหลังดำ งูทะเลพิษร้ายแรง ติด 1 ใน 10 ของโลก ร้ายแรงกว่างูเห่า ล่าเหยื่อแบบหวังผล และ งูสมิงทะเลปากเหลือง พิษรุนแรงกว่างูหางกระดิ่ง 10 เท่า ฯลฯ
5. มหัศจรรย์แห่งการกิน เช่น กุ้งแรด มีก้ามพิเศษ เหมือนใบพัดเอาไว้ใช้ดักอาหาร ฯลฯ
6. มหัศจรรย์ทางกาย เช่น ปลากดกลับหัว หรือ up side down เป็นปลาที่ว่ายน้ำกลับหัว หงายท้องว่ายน้ำแบบตีกรรเชียง ปลาใบมีดโกน ว่ายน้ำหัวทิ่มลง ลำตัวตั้งฉากกับพื้นตลอดเวลา หายากในธรรมชาติ แต่ปัจจุบันกรมประมงเพาะพันธุ์ได้แล้ว เต่าจมูกหมู หรือ เต่าบิน เต่าฟรายริเวอร์ มีจมูกเหมือนหมู และว่ายน้ำได้เก่งมาก ฯลฯ
7. มหัศจรรย์ศิลปะพรางตัว เช่น ปลากะรังหัวโขน ปลาทะเลโบราณพิษรุนแรงติดระดับโลก ลักษณะเหมือนก้อนหิน ปูแต่งตัวเม่นแต่งตัว แฟชั่นนิสต้าแห่งท้องทะเล กับพฤติกรรมสุดแปลกด้วยการหยิบวัสดุต่างๆ มาติดบนตัว ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มหัศจรรย์อาหารสัตว์น้ำมีชีวิต นิทรรศการมาตรฐานสินค้าประมงไทยดังไกลระดับสากล นิทรรศการบันไดปลาเพื่อความยั่งยืนของทรัพยากร การประกวดวาดภาพระบายสี ในหัวข้อ “มหัศจรรย์โลกใต้น้ำ” ของนักเรียนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น ฯลฯ

ไฮไลท์ที่ 2 นิทรรศการทางการแพทย์ : คอนเซป Healthy Thai คนไทยสุขภาพดี ไฮไลท์ที่ 3 ประกวดปลาสวยงาม : ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ปีนี้จะมีการจัดประกวดปลาสวยงามมากถึง 7 ชนิด 75 ประเภท ได้แก่ ปลากัด ปลาหางนกยูง ปลาทอง ปลาหมอสี ปลาหมอครอสบรีด ปลาปอมปาดัวร์ และปลาเอเชียนอโรวาน่า โดยไฮไลท์เป็นการประกวด ปลากัดหางกุหลาบ ซึ่งมีหางที่แผ่ใหญ่ได้มุมกว้างเกิน 180 องศา เป็นปลากัดที่สวยงามชนิดหนึ่งของโลก ปลากัดหางขนนก ครีบหางที่มีฉากคล้ายขนนก ไฮไลท์ที่ 4 โชว์จระเข้ การกลับมาอีกครั้งของ “ไททั่น” จระเข้ยักษ์แห่งลุ่มน้ำ พร้อมการแสดงโชว์จับจระเข้ด้วยมือเปล่าสุดระทึก ไฮไลท์ที่ 5 ปล่อยปลาออนไลน์ มหัศจรรย์การเกิดสู่แหล่งกำเนิด โดยมีการปล่อยสัตว์น้ำ 8 ชนิด 7 สถานที่ ได้แก่ ปลามังกร เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี ปลาม้า เขื่อนกระเสียว ปลายี่สกไทย ริมน้ำวัดสิริเจริญเนินหม้อ จ.ราชบุรี ปลาตะโกก – ปลากระโห้ สระเก็บน้ำพระราม 9 จ.ปทุมธานี ปลาตะกรับ ชายหาด จ.สงขลา หอยชักตีน ท่าเทียบเรือบ้านคลองเคียน จ.พังงา ปลากะพงขาว ชายฝั่งทะเล จ.ระยอง ไฮไลท์ที่ 6 สัมผัสโลกใต้น้ำ สนุกสนานไปกับมหัศจรรย์ Activity เสมือนจริงในโลกใต้น้ำขนาดยักษ์ในธีม Aquarium ผ่านเกม Saving Aqua ไฮไลท์ที่ 7 ลิขิตบนฝ่ามือ ไฮไลท์ที่ 8 เสวนาพาเพลิน กิจกรรม Work Shop & Talk Show บนเวทีกลางในทุกวัน อาทิ เสวนา หมอคะ !! ปลาป่วยทำไงดี / เมนูมหัศจรรย์โลกใต้น้ำ / Workshop ถ่ายรูปปลาเทคนิคถ่ายภาพสร้างรายได้หลักล้าน / อร่อยฟิน..กินแล้วสวย กับเมนูสุขภาพจากสาหร่ายผักกาดทะเล / Workshop จัดตู้ไม้น้ำจิ๋ว แบบ New Normal / ประกวดเมนูจากกุ้งทะเลไทย ไปไกลสู่ครัวโลก และเกมชิงรางวัลอีกมากมาย ฯลฯ และไฮไลท์ที่ 9 Fisherman Shop @ น้อมเกล้า ยกร้านจำหน่ายสุดยอดผลิตภัณฑ์ประมงที่มีคุณภาพจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ มาจำหน่าย


ในส่วนของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล รศ. พญ.นันทกร ทองแตง รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและองค์กรสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สำหรับปีนี้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม. มหิดล ยังคงเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้น จากการทำงานที่มุ่งมั่นของบุคลากรภาควิชาอายุรศาสตร์ จึงนำมาสู่ธีม “Healthy Thai คนไทยสุขภาพดี”

การวินิจฉัย รักษา และการหาวิธีป้องกันโรคเป็นหน้าที่หลักของแพทย์อายุรแพทย์ ผู้อยู่เบื้องหลังสุขภาพดีของคนไทย การให้ความรู้ทางการแพทย์ก็เป็นหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ประชาชนเข้าใจการดูแลตนเองมากขึ้น ภาควิชาอายุรศาสตร์จึงจัดนิทรรศการสุขภาวัฒนะ ให้ผู้ร่วมงานเลือกรับชมบทความ วิดีทัศน์ พร้อมร่วมเพลิดเพลินกับการตอบคำถามสุขภาพผ่านตู้การเรียนรู้ด้วยตนเอง ที่จะมอบความสนุกควบคู่สาระสุขภาพในหัวข้อใกล้ตัวสำหรับทุกเพศทุกวัย อาทิ ทำความรู้จักกลุ่มโรค NCDs (โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง) โรคมะเร็ง โรคไตเรื้อรัง โรคทางผิวหนัง ภูมิคุ้มกันวัยรุ่น วิธีจัดการความเครียด อาหารสุขภาพ และอีกมากมาย เพื่อให้ประชาชนรู้เท่าทันธรรมชาติของร่างกาย นำไปสู่การออกแบบวิถีชีวิตที่สมดุล นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงโมเดลอวัยวะดอง (Specimen) ที่ใช้ในการเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์ ในรูปแบบอวัยวะปกติและเกิดพยาธิวิทยา ได้แก่ มะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง มะเร็งตับ ไขมันในตับ หัวใจโต หัวใจขาดเลือด สมองขาดเลือด เลือดออกในสมอง อีกทั้งยังมีการจัดแสดง “ทารกแฝดสยาม” มนุษย์ที่มีความผิดปกติแต่กำเนิดอีกด้วย


อีกหนึ่ง ไฮไลท์สุดพิเศษ นั่นคือ บริการด้านสุขภาพจากของบุคลากรทางการแพทย์ผ่านหน่วยเคลื่อนที่กับ “BOOTH Check Up โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” โดยหน่วยแพทย์เคลื่อนที่จะประเมินความเสี่ยงเบาหวาน วัดรอบเอว วัดน้ำตาลปลายนิ้ว รวมถึงวัดความดันโลหิตด้วยเครื่องอัตโนมัติ และให้ความรู้การวัดความดันโลหิตด้วยตนเอง โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นในวันจันทร์ – ศุกร์ (ยกเว้นวันที่ 4 และ 6 กรกฎาคม 2566) เวลา 14.00 – 18.00 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 11.00 – 18.00 น. นอกจากนี้ ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมฟังเสวนาทางการแพทย์ ในวันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม 2566 เวลา 14.00 – 15.00 น. เรื่องโรคสมองเสื่อม จาก รศ. พญ.วรพรรณ เสนาณรงค์ ผศ. นพ.ชัชวาล รัตนบรรณกิจ และนายอรรถพล รักษ์สถาปัตย์ อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ เวลา 15.00 – 16.00 น. เรื่องกินอะไร…ไตไม่พัง จาก พญ.อารีรัตน์ อุณหสุทธิยานนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ และในวันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม 2566 เวลา 16.00 – 17.00 น. เรื่องคนไทยไม่เป็นเบาหวาน จาก พญ.พรรัมภา เพ็งคำ อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ ที่สำคัญขอเรียนเชิญ ผู้มีจิตศรัทธาร่วมกิจกรรม “1 คนให้ 3 คนรับ…เลือดของท่านช่วยชีวิตผู้ป่วยได้” บริจาคโลหิตบนรถ Mobile เคลื่อนที่ได้ตั้งแต่เวลา 10.00 – 15.00 น. รับจำนวนจำกัดเพียง 80 คน/วัน (ลงชื่อล่วงหน้า 50 คน และ Walk in 30 คน)

คุณณัฐรินทร์ พยุงวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการสายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค กล่าวถึงความร่วมมือการจัดงานครั้งนี้ว่า งานวันประมงน้อมเกล้าฯ เป็นงานใหญ่ประจำปีที่ลูกค้าและประชาชนทั่วไป ต่างเฝ้ารอชมความงดงามของสัตว์น้ำหลากสายพันธุ์ ทั้งปลาที่นำมาร่วมประกวดและที่นำมาแสดง ซึ่งทางศูนย์การค้าฯ ได้จัดอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 14 โดยทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท เนรมิตพื้นที่จัดงานทั้งหมดกว่า 7,000 ตารางเมตร บริเวณ ชั้น จี ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ ให้เป็นอาณาจักรสัตว์น้ำที่ยิ่งใหญ่ ภายใต้ธีม 7 สิ่งมหัศจรรย์โลกใต้น้ำ “Wonders of the Aquatic World” โดยในปีนี้ไฮไลท์ที่สำคัญที่ยังไม่เคยนำมาแสดงคือแมงกะพรุนพระจันทร์ ซึ่งปกติแล้วการที่จะได้พบเห็นแมงกะพรุนก็ถือว่าเป็นเรื่องยากพอสมควร และทางศูนย์ฯ ยังได้รังสรรค์ตู้ปลาขนาดยักษ์ Digital Aquarium ใต้มหาสมุทรเสมือนจริงให้ลูกค้าได้สัมผัสและร่วมสนุก กลางศูนย์การค้าฯ นอกจากนี้ทางศูนย์การค้าฯ ยังมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกของฟิวเจอร์พาร์ค
ต่อที่ 1 – ใช้ 10 พ้อยท์ แลกรับ บัตรเข้าชมงาน 2 ใบ หรือบัตรเข้าร่วมกิจกรรม
– ใช้ 20 พ้อยท์ แลกรับตุ๊กตาแมวน้ำ
– ใช้ 50 พ้อยท์ แลกรับตุ๊กตาปลาหมึก

ต่อที่ 2 กิจกรรม “wonder scan” สะสม scan QR Code 9 ไฮไลท์ 7 กิจกรรม เพื่อรับรางวัลทันที
– Scan 2 จุด รับบัตรเข้าชมงาน 2 ใบ
– Scan 5 จุด รับตุ๊กตาแมวน้ำ 1 ตัว
– Scan 9 จุด รับตุ๊กตาปลาหมึก 1 ตัว
พร้อมกันนี้ได้จัดพื้นที่จอดรถทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคารรองรับ 9,000 คัน แล้วพบกันได้ที่ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์
ร่วมสัมผัสความมหัศจรรย์โลกใต้น้ำที่จะพาทุกท่านอิ่มตาอิ่มใจ ในงาน “วันประมงน้อมเกล้าฯ” ครั้งที่ 33 ได้ ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน – 9 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.00 น – 20.00 น. ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค ค่าบัตรผ่านประตูเพียง 20 บาท โดยรายได้ทั้งหมดในงานจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมทบทุนมูลนิธิจุฬาภรณ์