ม.เกษตรศาสตร์ จับมือ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าประเทศไทย คือ ผู้นำการผลิตน้ำนมคุณภาพสูงในภูมิภาคอาเซียนและสากล
วันที่ 25 มีนาคม 2564 ณ ห้องประชุม 9 ชั้น 2 อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการทำการแทน ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ร่วมกันลงนามความร่วมมือทางวิชาการด้านโคนมและอุตสาหกรรม เป็นระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 – 2569 โดยมุ่งเน้นการผลิตและพัฒนาบุคลากร องค์ความรู้ และเทคโนโลยี ตั้งเป้าประเทศไทยคือผู้นำในการผลิตน้ำนมคุณภาพสูง หรือ นมพรีเมียม ในภูมิภาคอาเซียนและสากล
ทั้งนี้ ผู้ร่วมลงนามเป็นพยาน ได้แก่ ผศ.ดร.นิคม แหลมสัก รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม รศ.ดร.สุตเขตต์ นาคะเสถียร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและสร้างสรรค์ รักษาการคณบดีคณะเกษตร นายสมพร ศรีเมือง รองผู้อำนวยการ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย นายวิศิษฎ์ แสงคล้อย ผู้ช่วยผู้อำนวยการ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย
![](https://agrimediathai.com/wp-content/uploads/2021/03/165265201_5662256987119574_5629847481928566204_o.jpg)
ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าว่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) และองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ได้มีความร่วมมือทางวิชาการด้านโคนมและอุตสาหกรรมมาอย่างต่อเนื่องกว่า 15 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 – 2564 สร้างผลงานโดดเด่นหลายเรื่องที่สนับสนุนให้อุตสาหกรรมโคนมและนมโคไทยมีความมั่นคง สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล
โดยระยะเริ่มต้น ในปีพ.ศ.2549-2554 ความร่วมมือมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาศักยภาพทางพันธุกรรมและความสามารถในการให้ผลผลิตของโคนมไทย
ระยะที่สอง ปีพ.ศ.2554 – 2559 เน้นเรื่องการพัฒนาระบบการประเมินความสามารถทางพันธุกรรมจีโนมของโคนม การพัฒนาการจัดเก็บและใช้ประโยชน์จากข้อมูล ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียนที่พัฒนาและนำเทคโนโลยีจีโนมมาใช้ในเชิงปฏิบัติในการพัฒนาโคนมของเกษตรกร
ระยะที่สาม ปีพ.ศ. 2559 – 2564 ขยายขอบเขตการดำเนินงานครอบคลุมวิชาการทุกสาขาด้านโคนมและอุตสาหกรรม โดยขยายตลาดน้ำนมและน้ำเชื้อพันธุ์โคนมที่ผลิตโดยคนไทยให้ไปสู่การยอมรับและใช้ประโยชน์ในระดับสากล รวมทั้งให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาบุคลกรและแนะนำเชิงเทคนิคในการผลิตโคนมเชิงการค้า ให้กับราชอาณาจักรภูฏานและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
สำหรับระยะที่สี ปี พ.ศ. 2564 – 2569 ที่ได้ลงนามความร่วมมือต่ออีกวาระหนึ่ง เป็นระยะเวลา 5 ปี ในครั้งนี้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ อ.ส.ค. จะมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากร ได้แก่ เกษตรกร ผู้ประกอบการ นักวิชาการ นิสิต และผู้สนใจให้มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีร่วมสมัย สามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ นำไปสู่ความเป็นผู้นำในการผลิตน้ำนมคุณภาพ หรือ นมพรีเมียมในภูมิภาคอาเซียนและสากล
![](https://agrimediathai.com/wp-content/uploads/2021/03/164978814_5662256517119621_8628604908414689843_o.jpg)
รศ.ดร.ศกร คุณวุฒิฤทธิรณ หัวหน้าทีมงานโครงการความร่วมมือทางวิชาการด้านโคนมและอุตสาหกรรม ระหว่าง มก. และ อ.ส.ค. กล่าวว่า ผลงานเด่นล่าสุด คือ การพัฒนาระบบการประเมินความสามารถทางพันธุกรรมจีโนมของโคนมรายตัว ซึ่งทำให้เกิดความแม่นยำในการคัดเลือกโคนมเพิ่มขึ้น เกษตรกรได้โคนม ทดแทนรุ่นใหม่ที่มีพันธุกรรมดีตรงตามความต้องการ ทำให้ลดต้นทุนและได้ผลกำไรจากการผลิตโคนมมากยิ่งขึ้น โดยผลงานนี้ได้รับการยอมรับให้เป็นต้นแบบของการพัฒนาโคนมในเอเซีย ขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) รายละเอียด ดังต่อไปนี้
การพัฒนาระบบการประเมินความสามารถทางพันธุกรรมจีโนมของโคนมรายตัว สำหรับลักษณะที่สำคัญทางเศรษฐกิจ (เช่น ผลผลิตน้ำนม อายุเมื่อคลอดลูกครั้งแรก คุณภาพน้ำนม ประสิทธิภาพการสืบพันธุ์) ที่มีความแม่นยำสูงกว่าวิธีการที่ใช้อยู่เดิม และถูกนำไปใช้ในการพิสูจน์และผลิตน้ำเชื้อพันธุ์โคแช่แข็งของ อ.ส.ค. เพื่อการจำหน่ายและบริการให้กับเกษตรกร ผลการดำเนินงานวิจัยและพัฒนาร่วมระหว่างสองหน่วยงานดังกล่าวมีผลทำให้ความแม่นยำในการคัดเลือกพ่อพันธุ์โคนมสำหรับลักษณะที่สำคัญทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
ทำให้เกษตรกรมีโอกาสได้โคนมทดแทนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถทางพันธุกรรมสำหรับลักษณะที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ตรงกับที่ตนคัดเลือกได้เร็วขึ้น ร้อยละ 14.8 (7.4 เดือน) ของระยะห่างระหว่างรุ่น (50 เดือน) คิดเป็นต้นทุนลดลงมูลค่า 12,580 บาท/ตัว (ต้นทุนการเลี้ยงโคนมเฉลี่ย 1,700 บาทต่อเดือน) ได้โคนมทดแทนรุ่นใหม่มีความสามารถในการให้ผลผลิตเพิ่ม 31.54 กิโลกรัม/ตัว/ปี หรือมีรายได้เพิ่ม 577.18 บาท/ตัว/ปี (ราคาน้ำนม 18.5 บาท/กิโลกรัม) ระยะเวลาในการตัดสินใจคัดเลือก (พิสูจน์) พ่อพันธุ์โคนมเพื่อการผสมเทียม (ผลิตน้ำเชื้อแช่แข็ง) จาก 73 เดือน เหลือเพียง 24 เดือน หรือเร็วกว่าเดิม 49 เดือน (ไม่จำเป็นต้องรอการพิสูจน์ลูกสาว) และลดค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู 131,369 บาท/พ่อพันธุ์ 1 ตัว (จาก 195,713 บาท/ตัว เหลือเพียง 64,344 บาท/ตัว) มูลค่าน้ำเชื้อพันธุ์โคนมแช่แข็งที่ผลิตได้จากพ่อพันธุ์ที่ผ่านการพิสูจน์แต่ละตัว (40,000 โด๊ส) เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาท/พ่อพันธุ์ 1 ตัว [วิธีการเดิม 3.8 ล้านบาท = (10,000 โด๊ส x 50 บาท) + (30,000 โด๊ส x 110 บาท) และ วิธีการใหม่ (จีโนม) 5.5 ล้านบาท = 40,000 โด๊ส x 110 บาท]
![](https://agrimediathai.com/wp-content/uploads/2021/03/164728468_5662257403786199_38404694596144560_o.jpg)
สร้างโอกาสในการแข่งขันเชิงการค้า ผลกำไร ความมั่นคงทางอาหาร ความสงบสุข และภูมิรู้ให้กับสังคมไทยได้มากขึ้น นอกจากนี้ โคนมทดแทนที่มีคุณสมบัติดีเหล่านั้นสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่จัดการให้ได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงผลิตและปล่อยกรีนเฮาส์ก๊าซและของเสียน้อยลง
ความสัมฤทธิ์ผลข้างต้นเพิ่มความน่าสนใจ ความเชื่อมั่น และความต้องการใช้ประโยชน์จากน้ำเชื้อพันธุ์โคนมแช่แข็งและพันธุกรรมโคนม ทั้งจากภายในและต่างประเทศมากขึ้น อีกทั้งยังได้รับการยอมรับจากประเทศสมาชิกของ Dairy Asia (FAO, UN) ให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในการพัฒนาระบบการปรับปรุงพันธุ์โคนมสมัยใหม่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ และขอความร่วมมือทางเทคนิคระดับนานาชาติด้านการปรับปรุงพันธุ์โคนม ข้อมูลและความรู้ที่ได้ยังถูกนำไปต่อยอดในการพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์สัตว์เศรษฐกิจชนิดอื่น พัฒนาความรู้ ความเข้าใจ และทักษะของเกษตรกร และใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณากำหดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เศรษฐกิจของรัฐบาลไทย
ในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งสองหน่วยงานรวบรวมข้อมูลพันธุ์ประวัติและลักษณะที่สำคัญทางเศรษฐกิจโคนม จำนวน 3,939 ตัว จากเกษตรกร จำนวน 231 ฟาร์ม ทั่วประเทศไทย เก็บตัวอย่างเลือด/น้ำเชื้อพันธุ์โคนมรายตัว และจีโนไทป์พันธุกรรมระดับจีโนม (SNPs) จำนวน 30K ถึง 150k ตำแหน่ง ของโคนม จำนวน 2,428 ตัว ประเมินความสามารถทางพันธุกรรมจีโนมสำหรับลักษณะที่สำคัญทางเศรษฐกิจของโคนมรวม 3,939 ตัว
จัดทำหนังสือความสามารถทางพันธุกรรมจีโนมโคนม อ.ส.ค. (รายปี) จำนวน 5 เล่ม (2560 – 2564) เพื่อกระจายให้เกษตรกรและผู้สนใจใช้ประโยชน์ (http://www.dpogenetics.com/index…/dpo-siredam-summary-menu) สนับสนุนการผลิตผลงานวิจัยและวิชาการ 16 เรื่อง (https://pirun.ku.ac.th/…/menu-public-present/4-article-4) พัฒนานิสิตระดับปริญญาโท จำนวน 3 คน และปริญญาเอก จำนวน 4 คน อบรมสัมมนา เพิ่มพูนความรู้ สร้างความเข้าใจ และพัฒนาทักษะในการพิจารณาคัดเลือกและจับคู่ผสมพันธุ์ ภายในประเทศไทย จำนวน 16 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมรวม 1,008 คน และต่างประเทศ (ราชอาณาจักรภูฏานและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา) จำนวน 4 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมรวม 124 คน ให้ความรู้และแนะนำโปรแกรมการปรับปรุงพันธุ์โคนมให้กับรัฐบาลพม่าและภูฏาน พัฒนาบุคลากรขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย 1 ราย (คุณพจน์ ฤทธิ์สไว) พัฒนาแผนการผลิต พิสูจน์ และจำหน่ายน้ำเชื้อพันธุ์โคนมแช่แข็ง