มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท จัดค่าย Design thinking จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ สู่ไอเดียเชิงธุรกิจ แก่เยาวชนโครงการสนับสนุนทุนการศึกษานักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ
มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท จัดค่าย Design thinking จุดประกายความคิดสร้างสรรค์
สู่ไอเดียเชิงธุรกิจ แก่เยาวชนโครงการสนับสนุนทุนการศึกษานักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ
การสนับสนุนโครงการนักเรียนทุนในพระราชานุเคราะห์ ที่มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว นอกจากจะมุ่งสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียนศิษย์เก่าโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนให้ทัดเทียมเยาวชนในเมือง เพื่อให้กลับไปพัฒนาชุมชนของพวกเขาให้มีโอกาสเฉกเช่นเดียวกันแล้ว การปูทางสู่อาชีพแก่เด็กและเยาวชนในโครงการฯ ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มูลนิธิฯ ตั้งใจผลักดันให้เกิดขึ้นมาโดยตลาด
ล่าสุดมูลนิธิฯ จัดค่าย Design thinking ให้แก่เด็กและเยาวชนในโครงการสนับสนุนทุนการศึกษานักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ ณ ศูนย์ฝึกอาชีพเยาวชนเกษตร จ.เพชรบุรี เพื่อส่งเสริมการใช้ความสร้างสรรค์จากพื้นฐานความสนใจ สู่ไอเดียเชิงธุรกิจ โดยมีนักเรียนทุนฯ เข้าร่วมกิจกรรมรวาม 55 คน เป็นนักเรียนทุนฯ ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น รุ่น 19 – 21 จำนวน 31 คน และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปวช. และ ปวส. รุ่น 15 – 18 จำนวน 24 คน
พีรชัย อัศดาชาตรีกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านค้นหาตัวตนและ design thinking จาก IdeaGen & Co. ที่มาเป็นวิทยากร ในการอบรมหลักสูตร Design thinking กล่าวว่า กิจกรรมในหลักสูตรนี้ มุ่งเน้นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน เกิดความคิดเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งเกิดจากสิ่งที่ตนเองสนใจ ผ่านกิจกรรม Work Shop ในฐานการเรียนรู้ 5 ฐาน ได้แก่ การค้นหาตัวตน เพื่อสำรวจความชอบของตนเอง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน การจับกลุ่มสร้างธุรกิจ 5 กิจการ ทั้งร้านอาหาร รถบริการ ฟาร์ม แอพพลิเคชัน และศูนย์สุขภาพ การค้นหาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า การสร้างสรรค์ไอเดียเชิงธุรกิจ และสุดท้ายคือการนำเสนอกิจการสร้างสรรค์ ที่ทุกคนได้มาเสนอไอเดียความคิดรวบยอดจากสิ่งที่ได้เรียนรู้มาทั้งหมด
จักรชัย ไม้พลอง ตัวแทนนักเรียนทุนฯ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ บอกว่า ค่ายนี้ทำให้ได้เรียนรู้และค้นพบความชอบเกี่ยวกับตัวเองว่าชอบอะไร ก่อนที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับอาชีพหรือการเรียนต่อ และยังฝึกการคิดวิเคราะห์เกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ ได้เรียนรู้เรื่องการวางแผนเกี่ยวกับธุรกิจ วางแผนในด้านความต้องการของลูกค้า และออกแบบธุรกิจให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
“ค่าย Design thinking เป็นค่ายที่ดีมาก ทำให้ได้เรียนรู้นำไปสู่ไอเดียเชิงธุรกิจที่สามารถประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตและต่อยอดสู่อาชีพในอนาคต ผมอยากให้มีค่ายแนะแนวทางการศึกษาต่อด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากๆต่อเยาวชนที่กำลังวางแผนที่จะเรียนต่อเพื่อให้สามารถเลือกในสิ่งที่ตัวเองรัก และเดินหน้าไปในเส้นทางนั้น เชื่อว่าเพื่อนๆ และน้องๆ จะได้นำความรู้ที่ได้ไปเป็นแนวทางในการศึกษาต่อในอนาคต ขอขอบคุณพี่ๆจากมูลนิธิฯที่ได้จัดกิจกรรมดีๆแบบนี้ให้กับพวกเราครับ” จักรชัย กล่าว
เช่นเดียวกับ ณัฐพงศ์ หัสดง ตัวแทนนักเรียนทุนฯ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ที่บอกว่า ค่ายนี้ให้ความรู้ที่ไม่เหมือนค่ายอื่นๆ โดยเน้นให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ใช้ความคิด และเรียนรู้การวิเคราะห์ที่เยอะมากๆ ทำให้เราได้รู้จักตนเองมากขึ้น ประทับใจในกิจกรรมการออกแบบกิจการ และการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า เพราะรู้สึกเหมือนได้ลงมือทำ เป็นผู้คุมกิจการจริงๆ ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองออกแบบกิจการ และเรียนรู้วิธีการจัดการ การหารายได้ และการจะทำอย่างไรให้กิจการรุ่งเรือง ซึ่งเป็นสิ่งที่นำไปปรับใช้ได้จริงในอนาคต
“ขอขอบคุณ มูลนิธิฯ ที่เล็งเห็นความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน ในโครงการสนับสนุนทุนการศึกษานักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ มาโดยตลอด การจัดค่าย Design thinking ในครั้งนี้ ถือเป็นการจุดประกายความคิดเชิงสร้างสรรค์ ให้เกิดการเรียนรู้ เกิดประสบการณ์จริงจากการลงมือปฏิบัติ กลายเป็นพื้นฐานความคิด ทำให้เราได้รู้จักและได้เข้าใจความชอบของตนเอง เกิดเป็นแรงบันดาลใจ นำไปต่อยอดในการเลือกสายการเรียน หรือสายงานต่อไปในอนาคต” ณัฐพงศ์ กล่าว
มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท มุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้สามารถสานต่อความฝันของตนให้กลายเป็นจริง และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศชาติต่อไป