เยี่ยมแหล่งปลูกผักกาดเขียวปลีและแหล่งผลิตผักกาดดอง
แหล่งใหญ่ของประเทศ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี นับเป็นแหล่งปลูกผักกาดเขียวปลีแหล่งใหญ่ของประเทศมายาวนานหลายสิบปี ที่นี่จึงเป็นแหล่งผลิตผักกาดดองแหล่งใหญ่ที่ส่งป้อนตลาดทั่วประเทศเช่นกัน ภูมิปัญญาการทำผักกาดดองที่นี่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ผักกาดดองที่นี่มีรสชาติอร่อย เป็นที่ต้องการของตลาด เกษตรกรปลูกผักกาดดองมีการรวมกลุ่มเพื่อเดินไปในแนวทางเดียวกันทั้งการผลิตและการตลาด สร้างความเข้มแข็งให้กับอาชีพปลูกผักกาดเขียวปลีและการทำผักกาดดองให้พัฒนา เติบโต เข้มแข็งและยั่งยืนเพื่อส่งต่ออาชีพสู่ลูกหลานต่อไป
วันนี้เราไปเยี่ยมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอาหารแปรรูปเกษตรกรแม่กลอง ซึ่งเป็นกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ของ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี มีสมาชิกกว่า 100 ราย พื้นที่ปลูกผักรวมกว่า 400 ไร่ โดยผักที่ปลูกเป็นหลักก็คือ ผักกาดเขียวปลี มีผักอย่างอื่นเสริมบ้าง เช่น กระเพรา โหระพา ผักชี เผือก ผลผลิตผักกาดเขียวปลีจากกลุ่มเกษตรกรที่นี่ปีหนึ่งมีผลผลิตมากกว่าแสนตันต่อปีเลยทีเดียว ส่งจำหน่ายทั่วประเทศ ผลผลิตที่ส่งจำหน่ายจะมีทั้งผักสดและผักกาดดอง
คุณวาริช เอี่ยมต่างแดน หนึ่งในสมาชิกกลุ่มที่เราไปเยี่ยมแปลงวันนี้ เล่าว่า ปลูกผักกาดเขียวปลีมานานกว่า 20 ปี มีพื้นที่ปลูก 13 ไร่ ปีนี้แบ่งพื้นที่ 3 ไร่ มาปลูกกระเพรา โหระพาและเผือกเสริมรายได้ พืชหลักยังเป็นผักกาดเขียวปลี เพราะปลูกมานานและเป็นพืชผักที่ทำรายได้ดี มีตลอดรองรับแน่นอน โดยปีหนึ่งจะปลูกผักกาดเขียวปลีได้ 3-4 รอบ
ผักกาดเขียวปลีเป็นผักที่ปลูกและดูแลไม่ยาก โรค แมลงก็ไม่มาก ใช้ระยะเวลาสั้นเพียง 45-55 วันก็เก็บเกี่ยวได้แล้ว การปลูกจะใช้วิธีหยอดเมล็ดไปบนแปลงปลูกเลย โดยหยอดเป็นหลุม อย่างขนาดแปลงกว้าง 1-1.20 เมตร จะหยอด 5 หลุม แต่ละหลุมห่างประมาณ 20-25 ซม. ตามแนวกว้างของแปลง ส่วนความยาวของแปลงตามพื้นที่ เมื่อผักงอกอายุประมาณ 10 กว่าวัน ก็จะมาถอนแยกหรือทิวต้นออกให้เหลือเพียงต้นเดียวต่อหลุม การใส่ปุ๋ยหนึ่งฤดูจะใส่เพียง 2 ครั้ง ช่วงอายุ 15 วัน (หลังทิวต้นออกแล้ว) จะหว่านยูเรีย (46-0-0) ไร่ละ 1 กระสอบ จากนั้นจะมาใส่ช่วงอายุ 45 วันอีกรอบ ใช้สูตรและอัตราเดิม ถ้าผักไม่งามจะเพิ่มรอบใส่ปุ๋ยเพิ่มอีกรอบในช่วงอายุ 1 เดือน เป็น 3 รอบ ส่วนโรค แมลงก็จะพ่นสารเคมีเมื่อเจอการระบาด ส่วนน้ำจะรดทุกวัน
ในส่วนของผลผลิตนั้นจะขึ้นอยู่กับฤดูกาล ช่วงต้นปี อากาศดี ผักงามก็จะได้ผลผลิตสูง 12-13 ตัน/ไร่ ราคาช่วงนั้นก็จะถูกตามไปด้วย ถ้าช่วงปกติก็จะได้ผลผลิต 7-8 ตัน/ไร่
ราคาผักกาดเขียวปลีจะขึ้นอยู่กับฤดูกาลเช่นกัน ช่วงที่อากาศดี ผักงาม ผลผลิตต่อไร่สูง ราคาก็จะถูกลงตามไปด้วย ราคาช่วงถูกก็จะอยู่ที่ 2-4 บาท ถูกสุดจะเป็นต้นปี ราคาเพียง 2 บาท อย่างช่วงนี้ (เดือนมีนาคม) ราคาอยู่ที่ 3.50 บาท แต่ถ้าช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค. ซึ่งเป็นช่วงฝน โอกาสที่ผักเสียหายมีสูง ทั้งจากฝนที่ตกจนน้ำท่วมขังแปลงเสียหาย ทั้งจากโรคจากเชื้อราที่ระบาดตามสภาพอากาศก็จะทำให้ผักมีราคาแพง ราคาช่วงนั้น 5-6 บาท แต่ชาวบ้านที่นี่จะปลูกผักตลอดทั้งปี เรียกว่าแปลงนี้เก็บเกี่ยวเสร็จก็ปลูกต่อเลย ส่วนใหญ่จะแบ่งพื้นที่ปลูกเพื่อให้ผักเก็บเกี่ยวเป็นรุ่นๆไป เพราะผักกาดเขียวปลีจะใช้เวลาประมาณ 55-60 วัน เพื่อให้พื้นที่แต่ละรุ่นไม่มากจนเกินไป สามารถดูแลได้ทั่วถึงตามกำลัง
คุณวาริชบอกว่า ต้นทุนการผลิตผักกาดเขียวปลี จะอยู่ประมาณไร่ละ 5,000-6,000 บาท ขึ้นอยู่กับว่าเจอโรค แมลงระบาดแค่ไหน ซึ่งจะเป็นส่วนของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น รอบที่แล้วพื้นที่ 6 ไร่ ลงทุนไปเกือบ 3 หมื่นบาท ตัดผักขายได้เงิน 7 หมื่นกว่าบาท กำไรเกือบ 4 หมื่นกว่าบาท ก็ถือว่าดีทีเดียว
กระเพรา โหระพาที่แบ่งพื้นที่มาปลูก 3 ไร่ ช่วงนี้ก็เก็บขายทุกวัน ช่วงนี้ราคาไม่แพง 15-20 บาท/กก. ถ้าเป็นช่วง ส.ค.-ต.ค.ช่วงนั้นราคาจะแพง 70-80-100 บาท/กก.เลยทีเดียว
ข้อมูล คุณวาริช เอี่ยมต่างแดน 71/4 ม.2 ต.ท่องทอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี 0959128554