พลโท บุญสิน..แม่ทัพภาคที่ 2 พบบุคลากร  และเสวนา“เรื่องจริงจากชายแดน”ม.เกษตร

เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2568 ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีย์กุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พบบุคลากร และนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมสนทนาพิเศษ “เรื่องจริงจากชายแดน” โดยมีผู้ร่วมงาน ทั้งนิสิตปัจจุบัน และนิสิตเก่า บุคลากร ล้นออกห้องประชุม

พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ก่อนที่ผมจะมาพูดอะไรกับพี่ๆน้องๆในวันนี้ อยากให้ทุกท่านร่วมร้องเพลง เป็นเพลงที่บางคนก็ร้องเบา บางคนก็ไม่อยากร้อง บ้างคนก็ไม่มีแผ่นดินจะให้ร้อง พวกเรามีแผ่นดิน ร้องเขนๆอ้าย ทำไมไม่ร้องดังๆ จะอ้ายใคร สักวันถ้าเราไม่มีที่ร้องเราจะไม่ได้ร้อง โดยจะเป็นต้นเสียงรวมร้องเพลงชาติไปด้วยกัน และให้เรารักษา3สีนี้ให้ดี บรรพบุรษสละเลือดเนื้อเพื่อให้ลูกหลานเราได้อยู่ต้องต่อสู้ด้วยความยากลำบาก มาถึงยุคพวกเราไม่อยากให้พวกเราต้องทะเลาะกัน อยากให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ศาสนาเป็นที่ยึดเหนียวจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นพุทธ คริสต์ อิสลาม สอนให้ทุกคนเป็นคนดี แม่ทัพภาคที่2 ฝากถึงครูอาจารย์ ให้ฝากข้อคิดศาสนาต่อเยาวชนถ้าไม่มีหลักศาสนาไม่เกรงกลัวบาป ทำไรคิดแต่ผลประโยชน์ตัวเอง เอาเปรียบคนอื่นได้มีความสุข ได้เงินมามีความสุข ไม่สนใจว่าคนอื่นจะเดือดร้อนยังไง นี้คือคนไม่มีธรรมะในสมอง โตมาแล้วมีปัญหาต่อบ้านเมือง

หลังจากนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวต้อนหนึ่งว่า ตั้งแต่วันที่ 24-28 ก.ค. 4 คืน 5 วัน ที่ตนพูดตั้งแต่ครั้งแรกว่าเราพร้อม จำเป็นต้องมีการปะทะ เพราะต้องปิดปราสาทตาเมือนธม ถ้าไม่ปิด ประชาชน 2 ประเทศจะฆ่ากันที่นั่น นี่คือสิ่งที่เราทำดีที่สุดแล้วในกรอบระยะเวลาที่มีอยู่ เอาแผ่นดินคืนมาได้เท่าเวลวที่มีอยู่ แลกกับน้องๆ ที่เสียสละเลือดเนื้อ

“มีใครรู้ไหม ว่าอะไรเกิดขึ้นกับครอบครัวเขาบ้าง น้องที่ขาขาด ดมยาสลบตื่นขึ้นมาพูดอยู่คำหนึ่งว่า พวกเรายึดได้ไหมพี่ นี่คือสิ่งที่มันเกิดขึ้นจริง เจ็บจริงและเสียชีวิตจริง เราทำดีที่สุดแล้วในห้วงเวลาที่จำกัด ลูกหลานแนวหน้าทำดีที่สุดแล้ว มันไม่ง่ายไม่ใช่เดินไปแล้วปักธง เขาก็มีปืนใหญ่ จรวด ผมขอชื่นชมและสดุดีวิญญาณที่พลีชีพเพื่อชาติ และบาดเจ็บจำนวนมาก รวมถึงประชาชนที่สูญเสียในห้วงดังกล่าว”

จากนั้น พล.ท.บุญสิน ตอบคำถามนักศึกษาเรื่องความท้าทายภารกิจการดูแลชายแดนว่า ไทยและกัมพูชาต่างฝ่ายต่างคิดว่าแผ่นดินนี้เป็นของตัวเอง เป็นความยากที่ 2 ประเทศคุยกันไม่รู้เรื่อง นำไปสู่ความขัดแย้ง ด้วยการใช้อาวุธ จะสังเกตเห็นว่าในยุโรปเขาคุยกันรู้เรื่อง ประเทศไทยเรามีชายแดน พม่า ไทย ลาว มาเลเชีย ก็ไม่ทะเลาะกัน ก็มีแต่ 2 ประเทศนี้ที่ทะเลาะกัน

“วันดีคืนดีมาบอกว่า 3 ปราสาท 1 พื้นที่ เป็นของข้าพเจ้า ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควายและช่องบก มันจะเป็นได้อย่างไร ก็กูอยู่ของกูอย่างนี้มานานแล้ว ตามที่พูดไป มันไม่ได้ ถ้าจะเอากำลังมาขู่ไม่ได้ ขู่ก็สวนกันเท่านั้น แต่ถ้าจะเอาอีก ก็ไม่ได้เหมือนกัน ก็สวนกันอีก ปัจจุบันก็พร้อม คุยกันดีๆ ก็ได้ ไม่คุยกันดีๆ ก็ได้ รัฐบาลคุยกับรัฐบาล ผมก็คุยกับแม่ทัพกัมพูชา ผมตัดสินใจได้ ถ้าลูกน้องผมตายผมก็มีสิทธิ์ป้องกัน ฉะนั้น มันยากตรงที่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งอยากได้แผ่นดิน เราไม่ยอม บางพื้นที่ที่เขาล้ำขึ้นมา เราก็ไม่ยอม” พล.ท.บุญสิน กล่าว

แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ยกตัวอย่าง ภูมะเขือ เราใช้กำลังเอาคืนมาได้ ชื่นชมน้องๆ ทหารที่ทำหน้าที่เอาคืนจุดนี้มาให้พวกเราขอสดุดีวีรกรรมพวกเขาทั้งหลาย ที่ต้องใช้ความกล้าหาญอย่างยิ่ง ทหารไทยไม่ได้น้อยหน้าใคร

พล.ท.บุญสิน กล่าวอีกว่า ภารกิจที่สร้างแรงกดดัน ที่ต้องตัดสินใจเสี้ยววินาที ระหว่างการรบกับการรอ การเจรจากับการยืนหยัด ตนถูกด่าขนานหนัก ลูกน้องขาขาด ทำไมไม่บุก ไม่ยิง บางครั้งบริบทการรับผิดชอบ มันไม่ได้มีอยู่แค่นั้น แต่บริบทอื่น เช่น เศรษฐกิจ สังคม การเจ็บ การตาย เราต้องคิด การเปิดสงคราม ประเทศจะเกิดอะไรขึ้น จะเหมาะสมหรือไม่ในช่วงเวลานั้น หากไปทะเลาะเวลานั้นเหมือนไปรังแก จะถูกทั่วโลกประณามใช่หรือไม่ ต้องคิดหลายอย่าง หากปะทะกันจะเกิดอะไรขึ้น 15 ชีวิตนี้เป็นหม้ายทันที มันคุ้มแล้วใช่หรือไม่ คุ้มกับแผ่นดินใช่ แต่อย่างอื่นคุ้มหรือไม่

“ใช้ความดุอย่างเดียว แต่ไร้ความคิด ไม่มีรอบคอบในการตัดสินใจอันตรายมาก จะกลายเป็นเผด็จการ และประเทศไทยจะถูกทั่วโลก ประณามทันที แต่กรณีที่ที่ผ่านมาเหมาะสมแล้ว เพราะเขายิงเราก่อน วันนั้นวัยรุ่นทั้ง2 ประเทศนัดดวนกัน ที่ปราสาทตาเมือนธม การตัดสินใจที่ลำบากที่สุด ถ้าปิด ยิงกันแน่นอน เพราะเขาไม่ให้ปิด ตีหนึ่งรายงานผู้บังคับบัญชาขออนุญาตปิด

ปิดตีสอง ตื่นเช้ามา เขาก็ยิงเราก่อน เพราะเขาบอกว่าเราปิดประเทศเขา แต่กูก็ปิดประเทศของกูเหมือนกัน จึงเป็นที่มาของ 4 คืน 5 วัน และได้คืนมาในหลายตารางกิโลเมตร ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในแผนงานที่วางไว้หมดแล้ว แม่ทัพไม่ใช่แม่ทัพที่ใช้อารมณ์ทุกอย่างวางแผนไว้ วิชาที่ร่ำเรียนมา ได้ใช้เพื่อประเทศบ้านเมือง ผมขอยืนยันกับประชาชนทุกคน”

พล.ท.บุญสิน กล่าวย้ำว่า หากรอแล้ว ผลประโยชน์ของชาติมาก่อน เราก็ต้องรอ แม้จะสูญเสียเราก็ต้องยอมรับ เพราะนี่แผ่นดิน ที่บรรพบุรุษเราสละเลือดเนื้อมาแล้ว ถ้าเจรจาแล้วเราเสียผลประโยชน์ เราต้องยืนหยัดไม่เจรจา เจรจาแล้วเสียเปรียบ ก็อย่าไปเจรจา ไม่ยอมรับกับข้อเสนอ

ดังนั้น ผู้เจรจาต้องทันเกม รู้ว่าเราต้องทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เสียแผ่นดินนี้ การเจรจาที่เราเสียเปรียบเราต้องยืนหยัดว่าไม่ยอมรับ เหมือนที่เขาจะขึ้นศาลโลก ทางรัฐบาลก็ยืนยันว่าเราไม่ยอมรับมติศาลโลก มีสิทธิ์ไม่ยอมรับ รื้อลวดหนามเราก็ไม่รื้อ เพราะเป็นแนวประชาธิปไตยของเรา แต่หากไม่ยอมรับจะมาใช้กำลัง ก็มาเจอกันเท่านั้น ต้องมีความเด็ดขาด อยู่บนผลประโยชน์ของชาติ

ทั้งนี้ การตัดสินใจมีผลต่อความพร้อมและการตัดสินใจที่ลำบากที่สุดคือ ชีวิต และผู้บาดเจ็บ แต่ต้องทำ เพราะมันคือความเป็นเอกภาพของประเทศไทย และศักดิ์ศรีของประชาชนคนไทยทุกคน ความเป็นผู้นำแล้วทุกอยากที่ว่างแผนไว้

“บางท่านบอกว่ามีทหารไว้ทำไม ผมบอกเป็นคำถามที่ทำให้ทหารน้อยใจจริงๆ ผมน้อยใจ และเสียใจจริงๆ ไปตอบโต้ก็ไม่ได้ เห็นได้ว่าสมรภูมิที่ผ่านมาฝึกมาทั้งชีวิต รับราชการมาจนจะเกษียณ เพิ่งได้รบวันนี้ เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดการรบกันเมื่อไหร่”

บางคนบอกว่าทหารไม่ต้องฝึกมาก ขอย้ำว่าไม่ได้ฝึกกันง่ายๆ ความอดทน เทคนิคการใช้อาวุธ ต้องสั่งสม ทักษะ ไว้ปฏิบัติทันทีเมื่อมีเหตุการณ์ ช่วงไม่รบก็ฝึก และช่วยชาวบ้านนี่ไง ทหารมีไว้ทำไม เมื่อบ้านเมืองสงบ เราช่วยพัฒนาประเทศ รักษาความสงบเรียบร้อยภายใน ปราบยาเสพติด สาธารณภัย ยามฝึกก็ต้องฝึกประจำ แม่ทัพก็ต้องฝึกเช่นกัน

โดยทั้งนี้ จะเปิดรับสมัครทหารออนไลน์ ในวันที่ 1 กันยายน- มกราคม 2569 เชิญช่วนน้องๆที่อยากเป็นทหาร สามารถสมัครได้เลยตาม

พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ฝากเยาวชน อย่าคบคนพาล คบเพื่อนที่ดี จะทำให้พ่อแม่เสียใจ ผู้อาวุโส ขอให้เป็นตัวอย่างที่ดีของลูกหลาน ซึ่งตนก็ทำหน้าที่นี้อยู่ ให้กับคนไทยที่มองตนอยู่ จะทำตัวให้ดีที่สุดให้ได้มากที่สุด จะเป็นคนหนึ่งที่อยู่กับคนไทยที่รักชาติและแผ่นดิน ซื่อสัตย์สุจริตต่อประเทศชา

ทั้งนี้ หากต้องเลือกหนึ่งคนที่ไว้ใจที่สุด คนๆนั้นคือ ต้องเลือกคนดี มีคุณธรรม เสียสละ ไม่เอาเปรียบลูกน้อง ไม่เห็นแก่ตัว แม่ทัพพร้อมเป็นลูกน้องคนนั้นทันที แต่ถ้าเป็นคนชั่วก็ไม่เป็น

พล.ท.บุญสิน ตอบคำถามสุดท้ายที่ถามว่าชายแดนไทยกัมพูชา เสี่ยงปะทะอีกรอบหรือไม่ และหากปะทะจะยึดประสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้หรือไม่ว่า ขึ้นอยู่กับผู้นำของกัมพูชาและท่าทีของทหารกัมพูชา ก้าวร้าวหรือไม่ กวนเราหรือไม่ หรือเริ่มก่อนหรือไม่

หากเป็นเช่นนั้น เรามีสิทธิ์ตอบโต้ และก็นั่นเป็นช่วงเวลาที่ยืนยันว่าเราจะทำให้ดีที่สุด ซึ่งจะมีเวลาไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. ตอนนี้ คิดอย่างเดียวว่าจะทำให้ที่สุด จนบางครั้งลืมไปว่าเหลืออีกไม่กี่วันจะเกษียณ

Message us