เปิดวิสัยทัศน์แม่ทัพการค้าแห่งเจียไต๋ เดินหน้าสร้างโซลูชันขับเคลื่อนเกษตรไทยสู่เกษตรอัจฉริยะ
“โซลูชันหรือสูตรสำเร็จทางการเกษตรเจียไต๋ กุญแจสำคัญในการปลดล็อกขีดจำกัดด้านการเกษตร
และผลักดันเกษตรไทยสู่เกษตรอัจฉริยะ พร้อมสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับทุกครัวเรือน”
เรื่องของเกษตรนั้นอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด เพราะเกี่ยวเนื่องกับอาหารการกินและการใช้ชีวิตในแต่ละวัน การส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารจึงเป็นสิ่งที่บริษัทเกษตรชั้นนำต่างมุ่งเป้าและให้ความสำคัญ เช่นเดียวกับบริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย ชื่อที่คนไทยต่างคุ้นหูและรู้จักกันมานานนับศตวรรษ กับการดำเนินธุรกิจเกษตรบนเจตนารมณ์ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน และปัจจุบันกับบทบาทใหม่ในการเป็นผู้ส่งมอบสูตรสำเร็จทางการเกษตร หรือ โซลูชัน โพรไวเดอร์ (Solutions Provider) ภายใต้การขับเคลื่อนของคุณทวีสุข เมฆธวัชชัยกุล Chief Commercial Officer แม่ทัพการค้าแห่งเจียไต๋ ที่เดินหน้าผนึกกำลังกลุ่มธุรกิจภายใต้บริษัท สร้างโซลูชันเพื่อปลดล็อกความท้าทายด้านการเกษตร พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร รวมถึงพัฒนาวงการเกษตรไทยสู่เกษตรอัจฉริยะอย่างยั่งยืน ซึ่งคืออีกเป้าหมายสำคัญของเจียไต๋ในศตวรรษใหม่นี้
ด้วยวิสัยทัศน์ดังกล่าว คุณทวีสุขจึงได้ต่อยอดการเป็นผู้นำนวัตกรรมการเกษตรของเจียไต๋ โดยนำเอาความเชี่ยวชาญและทรัพยากรของเจียไต๋จากทั้ง 5 กลุ่มธุรกิจ มาผนึกและสร้างเป็นโซลูชันทางการเกษตร พร้อมนำเสนอทั้งสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์กับสถานการณ์การเกษตรไทยในปัจจุบัน ซึ่งได้แก่ 1) เมล็ดพันธุ์เจียไต๋ ธุรกิจแรกเริ่มของบริษัท จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ผักพื้นบ้าน (OP) และเมล็ดพันธุ์พันธุ์ลูกผสม (F1-Hybrid) ที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ต้านทานโรค และทนทานต่อสภาพอากาศ, 2) ปุ๋ยตรากระต่าย ปุ๋ยที่เกษตรกรมั่นใจในคุณภาพและบอกต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น ครบครันด้วยสูตรปุ๋ยที่หลากหลายกว่า 20 สูตรที่เหมาะสมกับนาข้าว พืชไร่ และพืชสวน, 3) อารักขาพืชเจียไต๋ ผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลและบำรุงพืชให้เติบโตอย่างสมบูรณ์ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยต่อเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม, 4) เจียไต๋ ฟาร์มอินโน (ไทยแลนด์) ธุรกิจใหม่กับเป้าหมายใหญ่ในการพลิกโฉมการเกษตรไทยด้วยเทคโนโลยีการเกษตรสุดล้ำสมัย และเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ผนึกความเชี่ยวชาญของกลุ่มธุรกิจในการขับเคลื่อนการสร้างโซลูชันเจียไต๋ และ 5) เจียไต๋ฟาร์ม ธุรกิจปลายน้ำที่มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตผลทางการเกษตร พร้อมนำเสนอแหล่งตลาดให้เกษตรกรไทย
“เจียไต๋กับการเกษตรของไทย เติบโตมาด้วยกันยาวนานกว่าศตวรรษ เราจึงรับรู้ปัญหา เข้าใจสถานการณ์ และหนึ่งในพันธกิจของเราคือมุ่งหาแนวทางในการยกระดับเกษตรไทยไปอีกขั้น ซึ่งเจียไต๋มีองค์ความรู้ มีสินค้าและบริการด้านการเกษตรที่ครบครันตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เราจึงนำเอาความเชี่ยวชาญจากทุกๆ กลุ่มธุรกิจ มาวิเคราะห์ วิจัย และทดลองใช้จริง จนเกิดเป็นโซลูชันการเกษตรหรือสูตรสำเร็จที่เป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกขีดจำกัดด้านการเกษตรต่างๆ และผลักดันการเกษตรไทยจากการเกษตรแบบดั้งเดิมให้ก้าวสู่เกษตรอัจฉริยะ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรเพาะปลูกอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน สร้างรายได้ที่มั่นคง และที่สำคัญคือสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับทุกครัวเรือน” คุณทวีสุขกล่าว
เผยกลยุทธ์แก้ปัญหาพร้อมยกระดับการเกษตรไทยด้วยสูตรสำเร็จหรือโซลูชันแบบฉบับเจียไต๋
- ติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ของการเกษตรไทยในปัจจุบัน
เราต่างกำลังเผชิญกับความท้าทายที่จะส่งผลต่อความยั่งยืนของภาคการเกษตรและความมั่นคงทางอาหารในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพอากาศแปรปรวน (Climate Change) ฝนที่ไม่ตกตามฤดูกาล อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกระทบต่อประสิทธิภาพในการเพาะปลูก และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของเกษตรกร รวมถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคการเกษตร (Aging Society) ที่ปัจจุบันไทยกำลังเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ โดยอายุเฉลี่ยของเกษตรกรไทยนั้นสูงถึง 62 ปี (ข้อมูลจากศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics) ส่งผลต่อกำลังและคุณภาพในการผลิต ซึ่งจากสถานการณ์การเกษตรไทยจึงเป็นที่มาของพันธกิจในการสร้างโซลูชันเพื่อให้วงการเกษตรไทยสามารถข้ามผ่านความท้าทายต่างๆ เหล่านี้ได้
- ผนึกความเชี่ยวชาญ พัฒนาต่อยอด สร้างสินค้า บริการ และโซลูชันทางการเกษตร ส่งมอบสู่เกษตรกร
สูตรสำเร็จทางการเกษตร หรือที่เรียกว่า “โซลูชันเจียไต๋” คือ การนำองค์ความรู้หรือเทคนิคการเกษตรที่เกิดจากการวิจัยและทดลองโดยผู้เชี่ยวชาญเจียไต๋ มาประยุกต์ใช้ร่วมกับเทคโนโลยีการเกษตรต่างๆ อาทิเช่น โดรนเพื่อการเกษตร โดยโซลูชันที่เริ่มใช้อย่างกว้างขวางในตอนนี้ ได้แก่ โซลูชันนาข้าว ซึ่งเป็นสูตรการดูแลและบำรุงนาข้าวด้วยผลิตภัณฑ์ปุ๋ยตรากระต่ายและผลิตภัณฑ์อารักขาพืชเจียไต๋ โดยใช้ตามสัดส่วนที่เหมาะสมต่อแต่ละช่วงอายุการเติบโตของข้าว และเสริมประสิทธิภาพการใช้งานด้วยโดรนเพื่อการเกษตรของเจียไต๋ ฟาร์มอินโน (ไทยแลนด์) ซึ่งโซลูชันนาข้าวนี้ ช่วยเพิ่มความแม่นยำ ลดแรงงาน และประหยัดเวลา ที่สำคัญคือช่วยให้เกษตรกรปลูกข้าวได้อย่างปลอดภัยและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
โดยเจียไต๋ได้ส่งมอบองค์ความรู้นี้ให้กับพี่น้องเกษตรกรผ่านกิจกรรมส่งเสริมและอบรมต่างๆ เพื่อให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกข้าวได้ผลิตผลที่ดี มีคุณภาพ และสร้างรายได้ที่มั่นคง
- เชื่อมพันธมิตรทางธุรกิจ เสริมแกร่ง สร้างโอกาส
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโซลูชัน เจียไต๋จึงจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจจากทุกภาคส่วนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ บริษัทเอกชน หรือสถาบันการศึกษา เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และร่วมดำเนินโครงการต่างๆ อาทิ งานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเกษตร เช่น องค์ความรู้โดยรวมเรื่องการเพาะปลูกข้าวและความรู้เรื่องดิน เป็นต้น และการคัดสรรเทคโนโลยีการเกษตรที่ล้ำสมัยมาเสริมประสิทธิภาพให้กับโซลูชันแบบฉบับเจียไต๋ อย่างโดรนเพื่อการเกษตร โดยเจียไต๋นำเสนอโดรนที่มีการทำงานทั้งในรูปแบบคนบังคับและการทำงานแบบอัตโนมัติหรือไร้คนขับ (Fully Autonomous Agricultural Drone) ซึ่ง 2 ประเภท ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการหว่านและพ่นผลิตภัณฑ์ ช่วยลดเวลาการทำงาน สามารถใช้บินสำรวจผลิตผลและโรคพืช ช่วยประหยัดต้นทุนค่าปัจจัยการผลิตและค่าแรงงาน ซึ่งตอบโจทย์กับเรื่องการขาดแคลนแรงงานภาคเกษตร รวมถึง Aging Society ได้ ทั้งนี้ ในอนาคตจะยังมีเทคโนโลยีการเกษตรอื่นๆ มาเสริมทัพอีกมากมาย และในอีกแง่มุม เทคโนโลยีการเกษตรเหล่านี้สามารถดึงดูดและรองรับคนรุ่นใหม่ให้หันมาสนใจการทำงานในภาคการเกษตรได้มากขึ้น ซึ่งสามารถช่วยลดทอนอุปสรรคเรื่องแรงงานภาคเกษตรได้ดี
- เกษตรปลอดภัย มิติเพื่อความยั่งยืน
โซลูชันเจียไต๋ นอกจากมุ่งเป้าปลดล็อกความท้าทายด้านการเกษตรแล้ว ยังสนับสนุนให้เกิดเกษตรปลอดภัยต่อทั้งเกษตรกร สิ่งแวดล้อม และผู้บริโภค โดยเจียไต๋ได้มอบคำแนะนำการใช้งานผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้องในปริมาณที่เหมาะสม พร้อมแนะนำระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวผลิตผล ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมอาหารปลอดภัย สนับสนุนการสร้างความมั่นคงทางอาหาร และสร้างความยั่งยืนทางการเกษตร
เจียไต๋ในบทบาทผู้ส่งมอบสูตรสำเร็จทางการเกษตร หรือ โซลูชัน โพรไวเดอร์ (Solutions Provider) กับพันธกิจที่สำคัญภายใต้การบริหารงานของแม่ทัพการค้าคุณทวีสุข เมฆธวัชชัยกุล จะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนให้วงการเกษตรของไทยสามารถก้าวไปอีกขั้นสู่เกษตรอัจฉริยะ ซึ่งนอกจากจะตอบโจทย์กับทิศทางของธุรกิจแล้ว ยังตรงตามเจตนารมณ์หลักขององค์กรที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนผ่านการส่งมอบนวัตกรรมการเกษตร ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชันที่มีคุณภาพ
