ชริมพ์บอร์ดเดินหน้า ฟื้นฟูอุตสาหกรรมกุ้งทะเลไทย เป็น“วาระแห่งชาติ”หนุนใช้โซลาร์เซลล์ในฟาร์ม ลดต้นทุน-สร้างความยั่งยืน เข้ามาตรฐานสากล

เป็นที่รู้กันว่า ราคากุ้งตกต่ำ ส่งผลให้เกษตรกรบางส่วนชะลอการลงกุ้ง อย่างไรก็ดี
คณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ หรือ ชริมพ์บอร์ด (Shrimp Board) เห็นชอบแผนปฏิบัติการระยะ 2 ปี (พ.ศ. 2569 – 2570) ยกระดับการแก้ปัญหาอุตสาหกรรมกุ้งทะเลเป็น “วาระแห่งชาติ” พร้อมไฟเขียวโครงการนำร่องส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในฟาร์มกุ้งกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อลดต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นและส่งเสริมการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืนให้อุตสาหกรรมกุ้งไทย


เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมพะยูน ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ได้รับมอบหมายจาก นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ ครั้งที่ 3/2568 โดยมีผู้บริหารและคณะกรรมการจากทุกภาคส่วนเข้าร่วม เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางแก้ไขปัญหาที่อุตสาหกรรมกุ้งทะเลกำลังเผชิญ รวมถึงการปรับตัวต่อความท้าทายจากมาตรการทางการค้าในตลาดสากล


นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง รองประธานชริมพ์บอร์ด เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีมติสำคัญในการเห็นชอบหลักการ “แผนปฏิบัติการเพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหากุ้งทะเลเป็นวาระแห่งชาติ พ.ศ. 2569 – 2570” ซึ่งเป็นแผนแม่บทที่จะบูรณาการการทำงานของทุกหน่วยงานเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างครบวงจรและเป็นรูปธรรม ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาสายพันธุ์กุ้งคุณภาพ การยกระดับมาตรฐานการเลี้ยง การสร้างความเข้มแข็งของเกษตรกรผู้เลี้ยง การพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม ตลอดจนการสร้างแบรนด์และเพิ่มศักยภาพการส่งออก ซึ่งแผนปฏิบัติการฯ ฉบับนี้ เปรียบเสมือนเข็มทิศที่จะนำพาอุตสาหกรรมกุ้งไทยไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืน โดยสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องเกษตรกร และฟื้นฟูศักยภาพการส่งออกของประเทศ ซึ่ง “ชริมพ์บอร์ด” ไม่ได้มุ่งเน้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมในระยะยาว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้อนุมัติในหลักการให้เสนอโครงการส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกในฟาร์มกุ้งทะเล โดยมีเป้าหมายส่งเสริมการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ในฟาร์มกุ้งทะเลนำร่อง 1,000 แห่ง ใน 35 จังหวัดทั่วประเทศ โครงการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เกษตรกรสามารถปรับตัวเพื่อแก้ไขปัญหาด้านต้นทุนการเลี้ยงได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมการผลิตกุ้งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามแนวทาง ESG (Environmental, Social, and Governance) และหลักการ Green Aquaculture เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตกุ้งทะเลของไทยให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีความยั่งยืน


อธิบดีกรมประมง กล่าวเน้นย้ำว่า การอนุมัติหลักการโครงการโซลาร์เซลล์ครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญในการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ช่วยให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ด้วยตนเองผ่านเทคโนโลยีสะอาด ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต โดยมีหน่วยงานภาครัฐเป็นพี่เลี้ยงและสนับสนุนองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง การดำเนินการนี้ยังช่วยยกระดับสินค้ากุ้งของไทยให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากกระบวนการผลิตที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม อีกทั้งยังช่วยสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้งให้แก่พี่น้องเกษตรกรไทยอีกด้วย


“การประชุมครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญ ซึ่งชริมพ์บอร์ดมองปัญหาอย่างรอบด้าน ทั้งการวางแผนระยะยาวผ่านแผนปฏิบัติการฯ ที่จะยกระดับการแก้ปัญหาเป็นวาระแห่งชาติ และการแก้ปัญหาเร่งด่วนที่เกษตรกรกำลังประสบอยู่ โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนพลังงาน การอนุมัติหลักการโครงการโซลาร์เซลล์ในวันนี้ถือได้ว่าเป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ ซึ่งหลังจากนี้ กรมประมงจะเร่งนำเสนอโครงการดังกล่าวต่อคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) เพื่อพิจารณาให้การสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป …หากโครงการได้รับการอนุมัติ คาดว่าจะสามารถสร้างต้นแบบฟาร์มพลังงานสะอาด ช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเลสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และนำไปสู่การผลิตกุ้งทะเลคุณภาพสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมกุ้งทะเลของไทยตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิตต่อไป”…อธิบดีฯ กล่าวในตอนท้าย

Message us