ชาวประมง คึกคัก ! หลังสิ้นสุดมาตรการปิดอ่าวไทยเรือประมงสามารถจับปลาลัง – ปลาทู คืนแรกจับได้ 10,000 กิโลกรัม

กรมประมงได้การประกาศ มาตรการปิดอ่าวไทย  เพื่ออนุรักษ์ปลาวางไข่ และลูกปลาวัยอ่อน  เพื่อเปิดโอกาสให้ปลาได้เจริญเติบโตตามวงจรชีวิตปลาทู ในระยะเวลา90 วัน เพื่อให้พ่อแม่ปลาทูได้วางไข่เต็มที่ 

นายสุวัฐน์  วงศ์สุวัฒน์  รองอธิบดีกรมประมง ในฐานะโฆษกกรมประมง เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ว่า เมื่อหลังเวลา 24.00 น. ของคืนวันที่ 14 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา เข้าสู่เช้าวันที่ 15 มิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นเวลาที่สิ้นสุดการบังคับใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในทะเลอ่าวไทย ประจำปี 2568 (ปิดอ่าวไทย) ในช่วงที่ 2 เจ้าหน้าที่กรมประมง นำโดยนายสันติภาพ  มะเหศวร  เจ้าพนักงานประมงชำนาญงาน ร่วมกับหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลอ่าวน้อย (ประจวบคีรีขันธ์) ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลสมุทรปราการ  กองตรวจการประมง  กรมประมง ได้ออกปฏิบัติงานควบคุมการทำประมงตามมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในพื้นที่จังหวัด
ประจวบคีรีขันธ์

     

     

ซึ่งเป็นแหล่งทำการประมงปลาทู พบว่า มีเรือประมงได้เริ่มทำการประมงในพื้นที่ดังกล่าว โดยใช้เครื่องมือประเภทอวนลากคู่ อวนล้อมจับ อวนครอบหมึก และ อวนครอบปลากะตัก โดยเฉพาะเครื่องมืออวนล้อมจับผ่านไป 1 คืน สามารถจับปลาลัง และ ปลาทู ได้สูงสุดถึง  10,000 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 500,000 บาท (จำนวน 50 บาท/กิโลกรัม) สร้างรายได้ให้พี่น้องชาวประมงเป็นอย่างมาก และเพี่อเป็นการบริหารจัดการทรัพยากรปลาทูอย่างต่อเนื่อง กรมประมงมีมาตรการปิดอ่าวไทยตอนใน (ปิดอ่าวไทยรูปตัว ก)  ใน 2 ห้วงระยะเวลา คือ ช่วงที่ 1 : วันที่ 15 มิถุนายน – 15 สิงหาคม 2568 และ ช่วงที่ 2 : วันที่ 1 สิงหาคม – 30 กันยายน 2568 ครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม  สมุทรสาคร  กรุงเทพมหานคร  สมุทรปราการ  ฉะเชิงเทรา และชลบุรี เพื่อเปิดโอกาสให้ปลาได้เจริญเติบโตตามวงจรชีวิตปลาทู ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรประมงให้เกิดความยั่งยืน

Message us